คำแนะนำการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อขั้นสูง

หากคุณปฏิบัติตามคำแนะนำการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อขั้นสูงนี้ไปตามขั้นตอน เมื่อคุณอ่านจนจบ คุณก็น่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ หรือเข้าใกล้ความช่วยเหลือจากฝ่ายช่วยเหลือของเรามากขึ้น ขั้นตอนสุดท้ายหากทำทุกอย่างแล้วยังไม่ได้ผลก็คือการเก็บบันทึกและส่งข้อมูล Log ที่เกี่ยวข้องรวมถึงข้อมูลการวินิจฉัยต่าง ๆ ให้กับฝ่ายช่วยเหลือของเรา โดยคุณสามารถอ่านรายละเอียดเรื่องนี้ได้ด้านล่าง

การแก้ไขปัญหา Firewall

อยากได้สรุปสั้น ๆ ใช่ไหม? เข้าไปดูวิดีโอสุดเจ๋งของเราเกี่ยวกับการปลดล็อก Firewall ที่ด้านล่างนี้!

Firewall มีอยู่เพื่อเป้าหมายสองอย่าง - คือบล็อกการสื่อสารที่เข้ามาและการสื่อสารที่ส่งออกไป การบล็อกการสื่อสารที่เข้ามาจะช่วยป้องกัน "แฮ็กเกอร์" จากด้านนอกไม่ให้เข้าถึงคอมพิวเตอร์ของคุณ โดยปกติจะเข้ามาโดยการใช้ช่องโหว่ในระบบการจัดการหรือโปรแกรมที่ใช้บ่อย ๆ

Firewall โดยส่วนมากถูกสร้างมาเพื่อปกป้องผู้ใช้งานจากตัวพวกเขาเอง ซึ่ง Firewall จะทำหน้าที่นั้นโดยการบล็อกการเชื่อมต่อที่ส่งออกไป การเชื่อมต่อที่ส่งออกไปจะเปิดโดยโปรแกรมที่ทำงานอยู่ในระบบของคุณ โปรแกรมที่เปิดการเชื่อมต่อมักไม่เป็นภัย เช่น เว็บบราวเซอร์, League of Legends และโปรแกรมพูดคุย

อัปเดต Firewall ของคุณ

เราได้ติดต่อผู้สร้างระบบ Firewall มากมายหลายบริษัทเพื่อให้ Firewall เหล่านั้นเห็น League of Legends เป็นโปรแกรมที่ไร้พิษภัยและเพิ่มการยกเว้นให้กับ League of Legends โดยอัตโนมัติ มีความเป็นไปได้ที่ Firewall ของคุณต้องทำการอัปเดตเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดจากผู้สร้างก่อน เพื่อใช้งานข้อยกเว้นเหล่านี้

โปรดเข้าไปยังเว็บไซต์ฝ่ายช่วยเหลือของผู้ให้บริการ Firewall ของคุณสำหรับไดรเวอร์และอัปเดตล่าสุด

โปรดทราบว่า

Firewall บางตัวต้องใช้การสมัครสมาชิกที่ยังไม่หมดอายุในการรับการอัปเดตฐานข้อมูลไวรัสเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด

เลื่อนไปหน้า Firewall บนสุด

ปิด Firewall ของคุณ

วิธีการแก้ปัญหาที่รวดเร็วและง่ายดายที่สุดก็คือการถอนการติดตั้งและปิดการใช้งาน Firewall ของคุณชั่วคราว การปิดใช้งาน Firewall ควรใช้เพื่อจุดประสงค์ในการแก้ปัญหาเท่านั้น

ปิดใช้งาน Firewall ใน Windows ของคุณ

  1. คลิก Start
  2. คลิก Control Panel หรือค้นหารายการดังกล่าว แล้วจึงคลิก
  3. คลิก System and Security
  4. คลิก Windows Firewall
  5. คลิก Turn Windows Firewall on or off (อาจมีหน้าต่างขึ้นมาให้ใส่รหัสผู้ดูแลระบบที่ขั้นตอนนี้)
  6. เลือกตัวเลือก Turn off Windows Firewall ที่อยู่ใต้ Network Location แต่ละอัน

เลื่อนไปหน้า Firewall บนสุด

ถอนการติดตั้ง Firewall จากบุคคลที่สาม

เป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์เหล่านี้ให้ครบถ้วนในระหว่างขั้นตอนนี้ ในบางครั้ง Firewall จะยังบล็อกการเชื่อมต่ออยู่แม้ว่ามันจะถูกปิดใช้งานไปแล้ว เมื่อคุณพบสาเหตุของปัญหาแล้ว คุณสามารถติดตั้ง Firewall เหล่านี้ใหม่อีกครั้ง และตั้งค่าให้อนุญาตเครือข่ายการเชื่อมต่อของ League of Legends อย่างถูกต้อง

เลื่อนไปหน้า Firewall บนสุด

ปิดการใช้งาน Firewall เราเตอร์ของคุณ (ดำเนินการอย่างระมัดระวัง!)

คำเตือน

การปิด Firewall ของคุณควรเป็นมาตรการชั่วคราวเพื่อระบุว่านี่เป็นสาเหตุของปัญหาหรือไม่ โปรดจำไว้ว่ามันดีกว่าที่จะกำหนดเส้นทางต่อตรง (Forward Port) ไปยังเราเตอร์ของคุณ (ดูได้ที่ด้านล่าง) เนื่องจากการปิดใช้งาน Firewall ของเราเตอร์จะเปิดช่องให้สคริปต์หรือโปรแกรมไวรัสต่าง ๆ เข้าถึงคุณได้

เพื่อปิด Firewall เราเตอร์ของคุณ คุณต้องเข้าไปยังหน้าการตั้งค่าเราเตอร์ คุณสามารถทำได้โดยการพิมพ์ที่อยู่ IP ของ Default Gateway ของคุณในแถบ URL ในเบราว์เซอร์ หากคุณไม่มั่นใจว่าที่อยู่ IP ของ Default Gateway คืออะไร หรือรหัสล็อกอินตั้งต้นของเราต์เตอร์นั้น ๆ ของคุณคืออะไร มีรายชื่อแบบละเอียดอยู่ที่นี่ 

เลื่อนไปหน้า Firewall บนสุด

เพิ่มข้อยกเว้นให้กับ Firewall ของคุณด้วยตนเอง:

นี่คือรายชื่อ path ที่คุณต้องเพิ่มในรายชื่อข้อยกเว้นใน Firewall ของคุณ:

  • C:\Riot Games\League of Legends\LeagueClient.exe
  • C:\Riot Games\League of Legends\LeagueClientUx.exe
  • C:\Riot Games\League of Legends\LeagueClientUxRender.exe
  • C:\Riot Games\League of Legends\Game\League of Legends.exe
  • C:\Riot Games\Riot Client\RiotClientServices.exe
  • C:\Program Files\Riot Vanguard\vgc.exe

ข้อมูล

น่าเสียดายที่มีจำนวนชนิดและเวอร์ชั่น Firewall นั้นมีแตกต่างกันมากมาย ซึ่งการจะพูดถึงรายละเอียดในการตั้งค่าสำหรับแต่ละ Firewall นั้นอยู่นอกเหนือขอบเขตของบทความนี้ คุณอาจต้องติดต่อผู้สร้าง Firewall ของคุณเพื่อตั้งค่าข้อยกเว้นสำหรับ League อย่างถูกต้อง

โดยทั่วไป กระบวนการนี้ต้องทำสามขั้นตอน:

  1. คลิกขวาที่ Firewall จากแถบ System ของคุณและไปยัง Options หรือ Settings
  2. หาแถบ Exceptions\Allowances\Applications
  3. เพิ่มแต่ละ path จากทั้งสี่ path ด้านบน ตรวจสอบให้มั่นใจว่าได้มอบ "Full Access" หรือการตั้งค่าที่เท่าเทียมกันไว้ด้วย

เลื่อนไปหน้า Firewall บนสุด

การตั้งค่า DNS ของคุณ

อยากได้สรุปสั้น ๆ ใช่ไหม? รับชมวิดีโอสุดเจ๋งของเราเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา Domain Name System (DNS) ได้ทางด้านล่างนี้!

เปลี่ยนเป็นระบบชื่อโดเมนสาธารณะ

Launcher ของ League of Legends ใช้ชื่อเซิร์ฟเวอร์แฝงที่มีปัญหาในการเชื่อมต่อกับค่าตั้งต้นของตัวจัดการระบบชื่อโดเมนสาธารณะของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ISP) ในบางบริษัท หาก Launcher ของคุณไม่ยอมเริ่มดาวน์โหลดแพตช์สักที คุณอาจจะต้องเปลี่ยนการตั้งค่าเครือข่ายของคุณเป็นเซิร์ฟเวอร์ DNS สาธารณะ โดยส่วนใหญ่แล้ว ปัญหานี้จะเกิดขึ้นกับผู้เล่นนอกสหรัฐอเมริกา

ข้อมูล

การเปลี่ยนการตั้งค่าเหล่านี้อาจก่อให้เกิดปัญหากับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณหากคุณมีการตั้งค่าเครือข่ายเฉพาะเจาะจงเพื่อจุดประสงค์อื่น ขอให้เตรียมพร้อมเปลี่ยนกลับไปการตั้งค่าเดิม และบันทึกข้อมูลใด ๆ ก็ตามที่คุณกำลังจะเปลี่ยนไว้ด้วย 

Windows 8 และ 10 Windows 11macOS

 

  1. กดปุ่ม Windows
  2. พิมพ์ "Control Panel"
  3. เลือก "Network and Internet" (เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต)
  4. เลือก "Network and Sharing Center" (เครือข่ายและศูนย์การแชร์ข้อมูล)
  5. เลือก "Change Adapter Settings" (เปลี่ยนการตั้งค่าอะแดปเตอร์) ในแผงควบคุมด้านซ้าย
  6. คลิกขวาที่อะแดปเตอร์เครือข่ายของคุณและเลือก "Properties" (คุณสมบัติ)
  7. เลือก "Internet Protocol version 4 (TCP/IPv4)" และเปิด "Properties" (คุณสมบัติ)
  8. ไปที่ด้านล่างของเมนูและเปลี่ยนจาก "Obtain DNS server address automatically" (รับที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS โดยอัตโนมัติ) เป็น "Use the following DNS server addresses:" (ใช้ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS ต่อไปนี้:)
  9. ใส่ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS สาธารณะต่อไปนี้ หนึ่งที่อยู่ต่อช่องว่างหนึ่งช่อง:

    - 8.8.8.8
    - 8.8.4.4

  10. บันทึกการแก้ไขโดยเลือก "OK"
  11. ปิดเว็บเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ทั้งหมด
  12. กดปุ่ม Windows
  13. คลิกขวาที่จุดใดก็ได้
  14. คลิก "All Apps"
  15. คลิกขวาที่ "Command Prompt" และเลือก Run as Administrator
  16. พิมพ์ ipconfig /flushdns และกด Enter
  17. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ

การปล่อย/เพิ่มใหม่ IP และการ Flush DNS (Windows)

  1. เปิดเมนู Start ของ Windows
  2. พิมพ์ cmd
  3. คลิกขวาที่ทางลัด Command prompt และเลือก "Run as Administrator" ในเมนูตัวเลือก คุณควรจะเห็นหน้าต่างสีดำที่ด้านในมีตัวอักษรสีขาว
  4. พิมพ์ ipconfig /release ใน Command Prompt
  5. กด Enter
  6. พิมพ์ ipconfig /renew ใน Command Prompt
  7. กด Enter
  8. พิมพ์ ipconfig /flushdns ใน Command Prompt
  9. กด Enter
  10. ปิด Command Prompt และลองเชื่อมต่อดูอีกครั้ง

การ Port Forwarding

อยากได้สรุปสั้น ๆ ใช่ไหม? รับชมวิดีโอสุดเจ๋งของเราเกี่ยวกับการเปิดพอร์ตบนเราเตอร์ของคุณได้ด้านล่างนี้เลย!

ทำไมต้องกำหนดเส้นทางพอร์ตด้วยตัวเอง?

บางครั้งพอร์ตที่จำเป็นต้องใช้ในการยอมรับการเชื่อมต่อจากเซิร์ฟเวอร์ League of Legends นั้นอาจจะถูกปิดด้วยค่าเริ่มต้นของเราเตอร์ หากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น คุณจะต้องกำหนดเส้นทางพอร์ตด้วยตัวเอง

การเชื่อมต่อจากเครือข่ายที่ถูกจำกัด?

หากคุณกำลังเชื่อมต่อจากเครือข่ายที่จำกัด เช่น มหาวิทยาลัย สถานที่ทำงาน หรือสถานที่สาธารณะ คุณจะต้องส่งพอร์ตด้านล่างให้กับผู้ดูแลระบบเครือข่ายของคุณเพื่อให้เขานำทางพอร์ตให้กับคุณ กรุณาส่งคำร้องหาเราหากผู้ดูแลระบบของคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

ขั้นที่ 1: การหา Default Gateway และที่อยู่ IP ภายใน

WindowsMac OS
  1. กดที่ปุ่ม [Windows] + R
  2. พิมพ์ cmd และกด Ok จากนั้น Command Prompt สำหรับ Windows จะแสดงออกมา
  3. พิมพ์ ipconfig
  4. กดปุ่ม Enter
  5. คุณควรจะเห็นรายการข้อมูลปรากฏขึ้นตรงหน้าคุณ เขียน Default Gateway และที่อยู่ IPv4 ของคุณเอาไว้ก่อนเพื่อใช้ในขั้นตอนถัดไป

ขั้นตอนที่ 2: เข้าไปยังหน้าการตั้งค่าเราเตอร์ของคุณ

WindowsMac OS
  1. เปิดเว็บเบราว์เซอร์ (เช่น: Microsoft Edge, Google Chrome, Mozilla Firefox เป็นต้น)
  2. ใส่ Default Gateway ของคุณในแถบที่อยู่ URL
  3. คุณอาจจะถูกถามรหัสผ่านและชื่อผู้ใช้ตรงจุดนี้ รหัสจะต่างไปตามแต่ละเราเตอร์ ลองกด OK ไปก่อน แต่ถ้าไม่ได้ผล ชื่อผู้ใช้มักเป็น admin และรหัสผ่านคือคำว่า password
  4. รหัสผ่านตั้งต้นของเราเตอร์แทบทั้งหมดถูกรวมไว้ ที่นี่
  5. ระบุหน้าที่มีชื่อใดชื่อหนึ่งดังนี้: Port Forwarding, Virtual Servers, NAT หรือ Application
  6. Port Triggering ไม่เหมือนกับ Port Forwarding ทั้งสองต่างกันโดยสิ้นเชิง
  7. หากมายังหน้าจอที่ถูกต้อง คุณจะสังเกตเห็นว่าคุณสามารถใส่ข้อมูลในนั้นได้หลายอย่าง
  8. หน้าจอที่ถูกต้องจะมีสิ่งเหล่านี้เสมอ: Port Range เพียงอันเดียว, Protocol และ Local IP/IP
  9. ที่อยู่/คอมพิวเตอร์
  10. หน้าจอที่ถูกต้อง "อาจ" มีสิ่งเหล่านี้: ชื่อโปรแกรม กล่องใส่เครื่องหมายเพื่อเปิดใช้งาน
  11. หน้าจอที่ถูกต้องจะ "ไม่มี" สิ่งเหล่านี้: Port Range อันที่สอง หรือ Field ของ IP ภายนอก
  12. ตอนนี้คุณต้องสร้างทางเข้าสำหรับแต่ละ Port Range ในรายการของเพจก่อนหน้า สำคัญมากที่คุณต้องใส่ Port Range, Protocol (UDP หรือ TCP) และ Local IP ที่ถูกต้อง
รายชื่อพอร์ตที่กำหนดเส้นทางไปถึงได้:
ไคลเอนต์เกม League of Legends 5000 - 5500 UDP, 7000 - 8000 UDP
ตัวช่วยแพตช์และ Maestro 8393 - 8400 TCP
PVP.Net 2099 TCP
PVP.Net 5223 TCP
PVP.Net 5222 TCP
การเชื่อมต่อ HTTP 80 TCP
การเชื่อมต่อ HTTPS 443 TCP
Spectator Mode 8088 UDP และ TCP
League Voice เลือก 50 พอร์ตจาก 1024 - 65000

 

การตั้งค่าการอนุญาตของคุณ

อัปเดต Windows

เพื่อให้แน่ใจว่า Windows ของคุณอยู่ในเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดอยู่เสมอ ให้ค้นหา "Windows Update" (อัปเดตวินโดวส์) ในหน้าเมนู Start เพื่อใช้งานโปรแกรม

ปิดการใช้งาน UAC

  1. พิมพ์ "UAC" ในแถบค้นหา Windows ของคุณ
  2. เลือก "Change User Account Control settings" (เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าการควบคุมบัญชีผู้ใช้)
  3. เลือกตัวเลือก "Never notify" (ไม่แจ้งเตือนอีกต่อไป) ในกล่องการตั้งค่า UAC
  4. คลิก "OK"

เรียกใช้งานไคลเอนต์ Riot ในฐานะผู้ดูแลระบบ

  1. คลิกขวาบนปุ่มลัดไคลเอนต์ของ Riot
  2. เลือก Properties (คุณสมบัติ)
  3. ทำเครื่องหมายถูกที่ตัวเลือก "Run as administrator" (เรียกใช้ในฐานะผู้ดูแลระบบ) ในแถบ Compatibility

โปรดทราบ: การเรียกใช้งาน League of Legends.exe ในฐานะผู้ดูแลระบบ โดยไม่เรียกใช้งานไคลเอนต์ Riot ในฐานะผู้ดูแลระบบไปในเวลาเดียวกันอาจทำให้เกมของคุณทำงานผิดปกติได้

League of Logs: การบันทึกและการส่งรายงานผล

ในบางครั้งเพื่อที่จะแก้ปัญหาของคุณ ทีมเทคนิคของเราอาจจะต้องขอไฟล์ Log บางชนิดเพื่อจะได้ทราบเกี่ยวกับอุปกรณ์ เครือข่าย/การเชื่อมต่อ หรือเกมที่เพิ่งเล่นไปของคุณมากขึ้น ได้เวลารวบรวมและทำไฟล์ .zip เพื่อส่งให้ฝ่ายช่วยเหลือ League of Legends ของ Riot กันแล้ว! อ่านรายละเอียดทั้งหมดของวิธีการเก็บชนิด Log ที่จำเป็นรวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่:

ยังมีปัญหาอยู่งั้นหรือ?

หากทั้งหมดด้านบนไม่สามารถแก้ไขได้ โปรดส่งคำร้องมาที่ฝ่ายช่วยเหลือผู้เล่นพร้อมด้วย Log ต่าง ๆ ที่บันทึกไว้ทั้งหมดในขั้นตอนก่อนหน้านี้ เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาและทำให้คุณกลับเข้าไปโชว์พลังใน Summoner's Rift ได้!

ส่งคำร้อง

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่