จากสลัมแห่งซอนไปจนถึงจุดสูงสุดของเทือกเขาทาร์กอน รูนเทอร์รานั้นมีการไล่ระดับของผู้คนและสถานที่มากมาย และในหลาย ๆ ทาง League เองก็แทบไม่ต่างกัน! ไม่ว่าคุณจะเป็นนักรบช่วงสุดสัปดาห์หรือนักบุกตะลุยแบบรายวัน เราก็มีที่ให้คุณเสมอภายใน Rift

แต่นั่นก็ยังทำให้เกิดคำถาม: ว่าในสมการนี้คุณอยู่ในระดับไหนกันล่ะ? เพื่อหาคำตอบ คุณก็จำเป็นต้องเรียนรู้เกี่ยวกับระดับและดิวิชั่นเสียก่อน!

ระดับและดิวิชั่น

ความเที่ยงตรงและความก้าวหน้าคือหัวใจหลักของการแข่งขัน ดังนั้นเพื่อทำให้แน่ใจว่าแมตช์การแข่งขันจะมีความเท่าเทียมและสามารถมอบเป้าหมายให้กับเหล่าผู้เล่นอันทะเยอทะยานทั้งหลายของเราได้ เราจึงได้สร้างระบบที่จะถอดความยุ่งเหยิงของแต่ละแมตช์ใน League ให้กลายเป็นเส้นทางที่เป็นระบบยิ่งขึ้น—หรือก็คือเส้นทางที่ประกอบไปด้วยระดับและดิวิชั่น

ระดับ

แทนที่จะคิดว่าเป็นยอดเขาที่ยืนตระหง่านเดียวดาย ให้ลองนึกภาพระดับแรงค์เป็นดั่งทิวเขาอันกว้างไกลจะถูกกว่า เพราะแต่ละยอดเขาที่พิชิตได้คือชัยชนะ!

ผู้เล่นแรงค์จะถูกแบ่งออกเป็นสิบระดับ ซึ่งแสดงอยู่ด้านบนตามลำดับจากต่ำไปสูง แต่ละระดับจะจัดกลุ่มผู้เล่นที่มีระดับทักษะใกล้เคียงกันและทำตามกฎง่าย ๆ: ยิ่งชนะบ่อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งไต่ได้สูงเท่านั้น!

แต่แค่ระดับก็คงไม่อาจบอกความสามารถได้ทั้งหมด เพราะท้ายสุดแล้ว ผู้เล่นที่พึ่งขึ้นมาจากระดับ Silver ก็อาจจะไม่ได้มีระดับเดียวกับผู้เล่นที่หลุดมาไกลจากระดับ Diamond ในครั้งอดีต ดังนั้นคุณจะแยกความแตกต่างระหว่างเหล่าผู้เล่น Gold ได้อย่างไร ใช่ไหม?

คำตอบก็คือดิวิชั่นยังไงล่ะ!

ดิวิชั่น

แต่ละระดับนั้นเป็นมากกว่าแค่จุดหมาย–แต่มันคือการผจญภัย และดิวิชั่นก็คือจุดแวะพักระหว่างทาง 

ระดับ Iron ไปจนถึง Diamond จะแบ่งออกเป็นระดับละสี่ดิวิชั่น คุณจะต้องเลื่อนจากแต่ละดิวิชั่นเพื่อขยับไปขั้นต่อไป และโดยปกติจะเริ่มในดิวิชั่นที่ต่ำที่สุดเมื่อเลื่อนไปยังระดับใหม่ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณอยู่ในระดับ Silver III คุณก็จำเป็นต้องไต่ผ่าน Silver II และ Silver I ก่อนจะทะลุไปถึงระดับ Gold IV

คุณอาจมีช่วงเวลาดวงซวยจนตกจากระดับ (มันเกิดขึ้นกับเราทุกคนแหละ!) เช่นนั้นคุณก็จะเริ่มไต่ใหม่ในดิวิชั่นสูงสุดของระดับที่ต่ำลงมา จากตัวอย่างด้านบน บางทีคุณอาจโชคร้ายต่อเนื่องและแพ้เกมไม่หยุดหลังขึ้นมาถึง Gold IV แบบนั้นคุณก็จะตกลงมาที่ Silver I

แน่นอน ยังมีข้อยกเว้นมากมายและความซับซ้อนพิเศษถึงการทำงานของการไต่อันดับของเรา ซึ่งคุณสามารถเข้าไปอ่านทั้งหมดได้ในบทความของเราเกี่ยวกับเกมวางอันดับ การเลื่อนขั้น และอื่น ๆ!

Master, Grandmaster และ Challenger

ถ้าคุณไต่ไปถึงระดับ Master ได้นี่ โหว เยี่ยมมาก! ถือว่าคุณอยู่ในระดับสูงสุด 0.2% ของผู้เล่นทั่วโลกเลยล่ะ และนั่นไม่ใช่ความสำเร็จเล็ก ๆ เลย!

แต่นั่นก็หมายถึงว่าคุณจะได้ไต่แรงค์ภายใต้ชุดกฎพิเศษที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการเดิมพันที่สูงขึ้นในการเล่นระดับสูงสุดโดยเฉพาะ ซึ่งคุณสามารถเข้าไปอ่านได้ในเพจของเราเกี่ยวกับระดับ Master, Grandmaster และ Challenger!

การเข้าคิว

เกมจัดอันดับจะถูกแบ่งออกเป็นสองรูปแบบคิวที่แตกต่างกัน ภายใต้เป้าหมายและชุดข้อจำกัดเฉพาะตัว

ก่อนที่เราจะพูดถึงความแตกต่าง มีคุณลักษณะอย่างน้อยหนึ่งอย่างที่คิวทั้งสองมี ในขณะที่เรามักจะพยายามทำให้ทั้งสองทีมมีการจัดทีมที่สร้างขึ้นเองเหมือนกัน (เช่น จับคู่ห้าสแตคใน Flex กับอีกห้าสแตค หรือจับคู่ทีมคนแปลกหน้าเดี่ยว/คู่กับอีกทีมที่เป็นผู้เล่นแบบเดี่ยวทั้งหมด) นี่อาจไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป การจับคู่เข้าแข่งขันนั้นเกี่ยวข้องกับการสร้างสมดุลจากหลายปัจจัย ซึ่งในบางครั้งอาจหมายถึงการสร้างทีมที่มีเพื่อนร่วมทีมที่คุณชวนเล่นมากกว่าอีกทีมที่มีบ้าง (หรือไม่มีเลย!) เพื่อความยุติธรรมและความรวดเร็ว

เดี่ยว/คู่

หากคติประจำใจของคุณคือ "ชนะเลน ชนะเกม" นี่ก็คือคิวค้นหาสำหรับคุณ ไม่ว่าคุณจะกระโดดเข้าไปเล่นด้วยตัวคนเดียวหรือมาพร้อมกับเพื่อน คิวเดี่ยว/คู่ก็คือสถานที่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการทดสอบเมคานิค เซนส์ในเกม รวมถึงการสื่อสารเฉพาะหน้าไปพร้อมกับกลุ่มคนที่คิดแบบคุณ ไม่มีทางเลยที่คนในคิวเดี่ยว/คู่จะมาพร้อมกับเพื่อนได้มากกว่าหนึ่งคน ดังนั้นแต่ละเกมจึงกลายเป็นโอกาสให้คุณได้ร่วมมือกับพันธมิตรหน้าใหม่ เพื่อต่อกรกับศัตรูหน้าใหม่ในฝั่งตรงข้าม

แรงค์ของคุณในคิวเดี่ยว/คู่จะแยกออกจากแรงค์ Flex อย่างสิ้นเชิง และคุณก็จะได้รับรางวัลพิเศษเฉพาะจากคิวเดี่ยว/คู่ของคุณในช่วงท้ายซีซั่น

ข้อจำกัด

เนื่องจากคิวเดี่ยว/คู่นั้นมุ่งเน้นไปที่ผลงานส่วนบุคคล ดังนั้นมันจึงมีข้อจำกัดหลายอย่างในเรื่องว่าใครจะสามารถเข้าคิวร่วมกับคุณได้บ้าง

Iron—Master

ผู้เล่นส่วนใหญ่จะสามารถเข้าคิวร่วมกับเพื่อนภายในระดับแรงค์ที่ต่างกันได้หนึ่งระดับ แต่ข้อจำกัดเหล่านี้จะผ่อนปรนเล็กน้อยในแรงค์ระดับต่ำ และจะยิ่งเข้มงวดขึ้นในระดับสูง ยกตัวอย่างเช่น ผู้เล่นระดับ Iron จะสามารถเข้าคิวร่วมกับผู้เล่นรุ่นพี่ได้สูงสุดถึงสองระดับ! แต่เมื่อไต่ไปจนถึงระดับ Diamond คู่หูของคุณก็จำเป็นต้องอยู่ห่างกันไม่เกินสองดิวิชั่นเท่านั้นเพื่อที่จะเข้าร่วมปาร์ตี้กับคุณ หากคุณไปถึงระดับ Master คุณสามารถเล่นคู่กับผู้เล่นระดับ Diamond I และ Master อื่น ๆ ได้ 

Grandmaster+

การไปถึงระดับ Grandmaster ได้นั้นเป็นความสำเร็จอันสูงส่ง แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่ที่มีแค่ระดับหัวกะทิเท่านั้นที่จะไต่ขึ้นไปได้ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเหล่าผู้เล่นในระดับ Grandmaster หรือสูงกว่าจึงสามารถเข้าคิวได้เพียงคนเดียว เพราะมีที่ว่างแค่ที่เดียวเท่านั้นบนจุดสูงสุด!

Flex

หากคิวเดี่ยว/คู่คือทั้งหมดในเรื่องความก้าวหน้าส่วนบุคคล Flex ก็คือจิตวิญญาณแห่งทีมเวิร์ค นี่คือที่ที่ดีที่สุดในการลองคอมพ์แสนประหลาด ฝึกฝนทีมไฟต์ และเตรียมพร้อมสำหรับ Clash

แรงค์ของคุณในคิว Flex จะแยกออกจากแรงค์เดี่ยว/คู่อย่างสิ้นเชิง และคุณก็จะได้รับรางวัลพิเศษเฉพาะจากคิว Flex ของคุณในช่วงท้ายซีซั่น

ข้อจำกัด

เหมือนกับชื่อเลย Flex จะยืดหยุ่นเรื่องข้อจำกัดมากกว่าแรงค์เดี่ยว/คู่อยู่นิดหน่อย ซึ่งเอาเข้าจริง Flex นั้นไม่มีข้อจำกัดใด ๆ ในระดับ Diamond ลงมา! อย่างไรก็ตาม หากคุณอยากเล่นกับผู้เล่นระดับ Master หรือสูงกว่า คุณก็จำเป็นต้องอยู่ในระดับ Emerald เป็นอย่างน้อย

นอกเหนือจากนั้น ข้อจำกัดเรื่องขนาดปาร์ตี้ก็จะแตกต่างกันเล็กน้อย

Flex นั้นมีไว้เพื่อส่งเสริมบรรยากาศของการเล่นเป็นทีมและสร้างสถานการณ์ที่การเล่นคนเดียวอาจจะกลายเป็นสิ่งที่เข้ามาขัดขวางเป้าหมายนั้น ดังนั้นในขณะที่คุณสามารถเข้าคิว Flex ในกลุ่มปาร์ตี้ 1, 2, 3 หรือ 5 คน ปาร์ตี้ที่มีจำนวน 4 คนจึงจะไม่สามารถเล่นได้และต้องไปเล่นในแมตช์ทั่วไปแทน

เราขอเตือนไว้เช่นกันว่าการสร้างปาร์ตี้ที่มีความแตกต่างเรื่องอันดับมากเกินไป (เช่น ผู้เล่นระดับ Iron จับกลุ่มกับผู้เล่นระดับ Diamond) อาจส่งผลให้เกิดแมตช์ที่ยากขึ้น เนื่องจากระบบของเราจะพยายามสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นในระดับทักษะที่ต่างกันมากที่สุด ข้อจำกัดในคิว Flex อาจมีความหละหลวมมากกว่า แต่การแข่งขันก็ยังเร่าร้อนไม่เปลี่ยนหรอกนะ!

ข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับเกมจัดอันดับ

มีคำถามอื่นเกี่ยวกับเกมจัดอันดับใช่ไหม? ค้นหาคำตอบได้ในคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเกมจัดอันดับ!