ปัญหาล็อกอิน

หากคุณมีปัญหาในการล็อกอินเข้า League of Legends บทความนี้จะช่วยคุณแก้ไขปัญหาเหล่านั้น หากคุณได้รับข้อผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับชื่อผู้ใช้หรือรหัสผ่านของคุณ คุณควรพิจารณากู้คืนบัญชีของคุณแทน ปัญหานี้อาจเกิดจากการที่คอมพิวเตอร์ของคุณปฏิเสธการรับรองความปลอดภัยจากเซิร์ฟเวอร์ของเรา ไคลเอนต์ของเราพึ่งพาเว็บเบราว์เซอร์เฉพาะซึ่งขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์ของคุณ โดยจะใช้ Internet Explorer สำหรับ Windows และใช้ Safari สำหรับ Mac เบราว์เซอร์เหล่านี้ต้องได้รับการตั้งค่า ไม่ว่าเบราว์เซอร์ตั้งต้นของคุณจะเป็นเบราว์เซอร์ใดก็ตาม ดังนั้นขอให้คุณเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าตามที่เราแนะนำในแต่ละเบราว์เซอร์

หากคุณใช้ระบบ Windows โปรแกรม Hextech Repair Tool สามารถช่วยแก้ไขปัญหาทั่วไปหลายประการซึ่งอาจส่งผลให้คุณไม่สามารถล็อกอินได้

อาการทั่วไป

  • คุณได้รับข้อผิดพลาดในหน้าล็อกอินซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับรหัสผ่านของคุณ
  • การเชื่อมต่อของคุณหมดเวลาระหว่างกระบวนการล็อกอิน

หมายเหตุ:

หากระบบปฏิบัติการหรือการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณต้องการตั้งค่าเฉพาะของตัวมันเองเพื่อให้เบราว์เซอร์ตั้งต้นทำงานได้ คุณอาจต้องติดต่อผู้ดูแลระบบของคุณก่อนทำการเปลี่ยนแปลงสำคัญ

เลือกภูมิภาคที่ต้องการในไคลเอนต์

ส่วนนี้เป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามไปได้ง่ายมาก โดยเฉพาะเมื่อคุณเร่งรีบที่จะเข้าไปใน Summoner's Rift หลังจากคลิกไอคอน League of Legends (แต่ก่อนที่จะกดปุ่มเล่น!) ให้คุณตรวจสอบภูมิภาคที่คุณจะล็อกอินด้านมุมขวาบนของหน้าต่าง คุณต้องล็อกอินเข้าภูมิภาคปัจจุบันที่คุณมีบัญชีของคุณ เนื่องจากบัญชีหนึ่ง ๆ สามารถเปิดใช้งานได้กับภูมิภาคเพียงภูมิภาคเดียวเท่านั้น

ตรวจสอบว่าเซิร์ฟเวอร์เปิดอยู่หรือไม่

ก่อนทำขั้นตอนแก้ไขปัญหาใด ๆ เราขอแนะนำให้คุณตรวจสอบสถานะปัจจุบันของเซิร์ฟเวอร์ League of Legends ที่คุณกำลังจะเชื่อมต่อ ลิงก์ต่าง ๆ ด้านล่างนี้จะพาคุณไปยังฟอรัมสถานะเซิร์ฟเวอร์ของแต่ละภูมิภาค:

ปรับนาฬิกาของคุณ

Windows

มีวิดีโอขั้นตอนแบบมีภาพประกอบให้คุณทำตาม!

ถ้านาฬิกาใน Windows ของคุณไม่ตรงกับเวลาจริง ก็อาจทำให้เซิร์ฟเวอร์เราได้รับใบอนุญาตที่มีประทับเวลาไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ League of Legends ร้านค้า หรือ การแข่งขัน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ โปรดทำตามวิธีแก้ไขด้านล่าง:

การปรับนาฬิกาด้วยตัวเอง

  • คลิกขวาที่นาฬิกาของคอมพิวเตอร์และเลือก Adjust Date/Time (เปลี่ยนวันที่/เวลา)
  • เลือกแท็บ Internet Time (เวลาอินเทอร์เน็ต) และคลิกปุ่ม Change Settings (เปลี่ยนแปลงการตั้งค่า)
  • ตรงจุดนี้ คุณอาจพบหน้าต่างแจ้งเตือน UAC หลังจากหน้าต่างนี้ คลิกปุ่ม Update Now (อัปเดตเดี๋ยวนี้) เพื่อตั้งค่าและปรับเวลาใหม่

หากขั้นตอนด้านบนไม่ได้ผล โปรดลองวิธีต่อไปนี้แทน:

  • กด [Windows Key] + R
  • พิมพ์ cmd
  • กด ตกลง
  • พิมพ์คำสั่งต่อไปนี้:
    net start w32time
  • คำสั่งนี้จะเปิดใช้บริการตั้งค่าเวลาให้ตรงกันในกรณีที่บริการดังกล่าวไม่ทำงาน
  • กด Enter
  • พิมพ์คำสั่งต่อไปนี้:
    w32tm /resync
  • คำสั่งนี้จะเริ่มการปรับเวลาของคุณใหม่ หากไม่สำเร็จ คุณอาจต้องตั้งค่าวันและเวลาด้วยตัวเอง
  • กด Enter
Mac

มีวิดีโอขั้นตอนแบบมีภาพประกอบให้คุณทำตาม!

ถ้านาฬิกาของคอมพิวเตอร์ของคุณไม่ตรงกับเวลาจริง ก็อาจทำให้เซิร์ฟเวอร์เราได้รับใบอนุญาตที่มีประทับเวลาไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ League of Legends ร้านค้า หรือ การแข่งขัน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ โปรดทำตามวิธีแก้ไขด้านล่าง:

การปรับนาฬิกาด้วยตัวเอง

  • ไปที่เมนู Apple
  • เลือก System Preferences (การปรับค่าระบบ)
  • เลือก Date and Time (วันที่และเวลา)
  • หากนาฬิกาถูกล็อกไว้ คุณต้องคลิกไอคอนแม่กุญแจด้านล่าง และพิมพ์รหัสผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อ
  • เลือกเซิร์ฟเวอร์เวลาตั้งต้น (time.apple.com, time.asia.apple.com หรือ time.euro.apple.com)
  • ทำเครื่องหมายที่กล่อง "Set date and time automatically" (ตั้งวันที่และเวลาโดยอัตโนมัติ)
  • ในแถบ "Time Zone" (เขตเวลา) ดูให้มั่นใจว่าได้ทำเครื่องหมายที่กล่อง "Set time zone automatically using current location" (ตั้งเขตเวลาอัตโนมัติโดยใช้ตำแหน่งที่ตั้งปัจจุบัน)
  • ยืนยันการตั้งค่าและปิดหน้าต่าง

ตั้งค่า DNS ของคุณ

Windows

มีวิดีโอขั้นตอนแบบมีภาพประกอบให้คุณทำตาม!

Launcher ของ League of Legends ใช้ชื่อแฝงเซิร์ฟเวอร์ที่มีปัญหาในการเชื่อมต่อไปยังตัวจัดการระบบชื่อโดเมนตั้งต้นของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหลายราย หาก Launcher ของคุณไม่ยอมเริ่มดาวน์โหลดแพตช์สักที คุณอาจจะต้องเปลี่ยนการตั้งค่าเครือข่ายของคุณเป็นเซิร์ฟเวอร์ DNS สาธารณะ โดยส่วนใหญ่แล้ว ปัญหานี้จะเกิดขึ้นกับผู้เล่นนอกสหรัฐอเมริกา

หมายเหตุ:

การเปลี่ยนการตั้งค่าเหล่านี้อาจก่อให้เกิดปัญหากับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณหากคุณมีการตั้งค่าเครือข่ายเฉพาะเจาะจงเพื่อจุดประสงค์อื่น ขอให้เตรียมพร้อมเปลี่ยนกลับไปการตั้งค่าเดิม และบันทึกข้อมูลใด ๆ ก็ตามที่คุณกำลังจะเปลี่ยน

Windows 8

  • กดปุ่ม Windows
  • พิมพ์ "Control Panel"
  • เลือก "Network and Internet" (เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต)
  • เลือก "Network and Sharing Center" (เครือข่ายและศูนย์การแชร์ข้อมูล)
  • เลือก "Change Adapter Settings" (เปลี่ยนการตั้งค่าอะแดปเตอร์) ในแผงควบคุมด้านซ้าย
  • คลิกขวาที่อะแดปเตอร์เครือข่ายของคุณและเลือก "Properties" (คุณลักษณะ)
  • ไปที่ด้านล่างของเมนูและเปลี่ยนจาก "Obtain DNS server address automatically" (รับที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS โดยอัตโนมัติ) เป็น "Use the following DNS server addresses:" (ใช้ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS ต่อไปนี้:)
  • ใส่ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS สาธารณะต่อไปนี้ หนึ่งที่อยู่ต่อช่องว่างหนึ่งช่อง
    • 8.8.8.8
    • 8.8.4.4
  • บันทึกการเปลี่ยนแปลงโดยการเลือก "ตกลง"
  • ปิดเว็บเบราว์เซอร์หรือโปรแกรมที่เปิดอยู่ทั้งหมด
  • กดปุ่ม Windows
  • คลิกขวาที่ไหนก็ได้
  • คลิก "All Apps" (แอปทั้งหมด)
  • คลิกขวาที่ "Command Prompt" และทำงานโดยใช้สิทธิ์ระดับผู้ดูแลระบบ
  • พิมพ์ ipconfig /flushdns และกด Enter
  • รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ 

Windows 7 และ Vista

  • เปิดเมนู Start
  • เปิด Control Panel
  • เลือก "Network and Internet" (เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต)
  • เลือก "Network and Sharing Center" (เครือข่ายและศูนย์การแชร์ข้อมูล)
  • เลือก "Change Adapter Settings" (เปลี่ยนการตั้งค่าอะแดปเตอร์) ในแผงควบคุมด้านซ้าย
  • คลิกขวาที่อะแดปเตอร์เครือข่ายของคุณและเลือก "Properties" (คุณลักษณะ)
  • เลือก "Internet Protocol Version 4 (TCP/IPv4)" และเปิดคุณลักษณะ
  • ไปที่ด้านล่างของเมนูและเปลี่ยนจาก "Obtain DNS server address automatically" (รับที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS โดยอัตโนมัติ) เป็น "Use the following DNS server addresses:" (ใช้ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS ต่อไปนี้:)
  • ใส่ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS สาธารณะต่อไปนี้ หนึ่งที่อยู่ต่อช่องว่างหนึ่งช่อง
    • 8.8.8.8
    • 8.8.4.4
  • บันทึกการเปลี่ยนแปลงโดยการเลือก "ตกลง"
  • ปิดเว็บเบราว์เซอร์และโปรแกรมที่เปิดอยู่ทั้งหมด
  • กดปุ่ม Windows
  • ในช่องค้นหา พิมพ์ command prompt
  • คลิกขวาที่ผลการค้นหาและเลือกทำงานด้วยสิทธิ์ระดับผู้ดูแลระบบ
  • ในหน้าต่าง command prompt พิมพ์ ipconfig /flushdns และกด Enter
  • รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ

Windows XP

  • เปิดเมนู Start
  • เปิด Control Panel
  • เปิด Network Connections (การเชื่อมต่อเครือข่าย)
  • คลิกขวาที่อะแดปเตอร์เครือข่ายของคุณและเลือก "Properties" (คุณลักษณะ)
  • เลือก "Internet Protocol (TCP/IP)" และเลือก "Properties" (คุณลักษณะ)
  • ไปที่ด้านล่างของเมนูและเปลี่ยน "Obtain DNS server address automatically" (รับที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS โดยอัตโนมัติ) เป็น "Use the following DNS server addresses:" (ใช้ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS ต่อไปนี้:)
  • ใส่ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ DNS สาธารณะต่อไปนี้ หนึ่งที่อยู่ต่อช่องว่างหนึ่งช่อง:
    • 8.8.8.8
    • 8.8.4.4
  • บันทึกการเปลี่ยนแปลงโดยการเลือก “ตกลง”
  • ปิดเว็บเบราว์เซอร์และโปรแกรมที่เปิดอยู่ทั้งหมด
  • กดปุ่ม Windows
  • ในช่องค้นหา พิมพ์ command prompt
  • คลิกขวาที่ผลการค้นหาและเลือกทำงานโดยสิทธิ์ระดับผู้ดูแลระบบ
  • ในหน้าต่าง command prompt พิมพ์ ipconfig /flushdns และกด Enter
  • รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ
Mac

มีวิดีโอขั้นตอนแบบมีภาพประกอบให้คุณทำตาม!

Launcher ของ League of Legends อาจพบปัญหาในการเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ DNS ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบางราย (ISP) ซึ่งเป็นขั้นตอนจำเป็นในการดาวน์โหลดแพตช์ใหม่ หาก Launcher ของคุณดูจะไม่เริ่มดาวน์โหลดแพตช์สักที คุณอาจต้องไปที่การตั้งค่าเครือข่ายของคุณแล้วเปลี่ยนเป็นเซิร์ฟเวอร์ DNS สาธารณะ:

หมายเหตุ: การเปลี่ยนการตั้งค่าเหล่านี้อาจก่อให้เกิดปัญหากับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณหากคุณมีการตั้งค่าเครือข่ายเฉพาะเจาะจงเพื่อจุดประสงค์อื่น ขอให้เตรียมพร้อมเปลี่ยนกลับไปการตั้งค่าเดิม และบันทึกข้อมูลใด ๆ ก็ตามที่คุณกำลังจะเปลี่ยน

การเปลี่ยนเป็น DNS สาธารณะ

  • คลิกไอคอน Apple ที่ด้านบนซ้ายของหน้าจอและเลือก "System Preferences..." (กำหนดค่าของระบบ...)
  • ดับเบิ้ลคลิกที่ "Network" (เครือข่าย)
  • เลือกการเชื่อมต่อที่เปิดใช้อยู่ด้านซ้าย และคลิกปุ่ม "Advanced..." (ขั้นสูง...) ที่มุมขวาล่าง
  • คลิก "DNS" จากแถบตัวเลือก
  • นำตัวเลข DNS ปัจจุบันทั้งหมดออก และใส่เซิร์ฟเวอร์ DNS สาธารณะต่อไปนี้:
    • 8.8.8.8
    • 8.8.4.4
  • บันทึกการเปลี่ยนแปลงโดยการเลือก “ตกลง”
  • ยืนยันการเปลี่ยนแปลงโดยการคลิก "นำไปใช้" ที่มุมขวาล่าง

ใช้โพรโทคอลความปลอดภัยที่อัปเดต (Windows)

มีวิดีโอขั้นตอนแบบมีภาพประกอบให้คุณทำตาม!

คุณอาจจะไม่สามารถเชื่อมต่อไคลเอนต์เกมได้ หากระบบของคุณถูกตั้งค่าให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตด้วย SSL 2.0 หรือ SSL 3.0 เป็นหลัก คุณสามารถบรรเทาปัญหานี้ได้โดยการตั้งค่าตัวเลือกอินเทอร์เน็ตให้ปิดการใช้งาน SSL 2.0 และ SSL 3.0 และเปิดใช้งาน TLS 1.0, 1.1 และ 1.2 การตั้งค่าตัวเลือกอินเทอร์เน็ตสามารถเข้าถึงได้ผ่าน Internet Explorer:

  • เปิด Internet Explorer
  • เลือก "Internet Options" (ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต)
  • ไปที่แท็บ "Advanced" (ขั้นสูง)
  • เลื่อนลงไปหาส่วน Security (ความปลอดภัย) ในหน้าต่างนี้
  • นำเครื่องหมายถูกออกจากช่องเพื่อปิดใช้งาน SSL 2.0 และ SSL 3.0

SS_Security_Protocol_Fix.jpg

  • ทำเครื่องหมายถูกในช่องเพื่อเปิดใช้งาน TLS 1.0
  • กด Apply (นำไปใช้)
  • รีสตาร์ท League of Legends

อีกทางหนึ่งคือ คุณสามารถเข้าถึงการตั้งค่าโดยการคลิกปุ่ม Windows และค้นหา "Internet Options" (ตัวเลือกอินเทอร์เน็ต) จากตรงนั้น คุณสามารถทำตามขั้นตอนที่ 3 ต่อไปได้เลย

Microsoft Support (Windows)

Microsoft Fixit

Microsoft มีไฟล์ชื่อ "fixit" ซึ่งสามารถใช้ในการแก้ไขปัญหาให้กับ Internet Explorer และ Windows Registry โดยอัตโนมัติ ไฟล์นี้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาการโหลดหน้าเพจใน Launcher และในร้านค้าได้ ไฟล์นี้ใช้กับ Windows เวอร์ชันใดก็ได้ และสามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่

ปิดการใช้งาน Killer Network Advanced Streaming (Windows)

หากมีการแจ้งเตือนข้อผิดพลาดขึ้นว่า “คุณอาจจะออฟไลน์อยู่” เมื่อคุณจะล็อกอินเข้าไคลเอนต์ League และคอมพิวเตอร์ของคุณมีการใช้งานอะแดปเตอร์ไร้สาย Killer Network อาจจะเป็นไปได้ที่หนึ่งในตัวเลือกของ Killer กำลังขัดขวางไม่ให้คุณเข้าไปยังตัวเกม League

Advanced Streaming Detect คือตัวเลือกในโปรแกรม Killer Network ที่ถูกเปิดใช้งานมาแต่ต้น และมันจะให้ความสำคัญของแบนด์วิดธ์เครือข่ายกับโปรแกรมและสตรีมที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งสามารถชนกับการเชื่อมต่อของ League ไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณ การทำตามขั้นตอนต่อไปนี้สามารถพาคุณกลับเข้าไปในเกมได้ :

  • กดปุ่ม Windows และพิมพ์ “Killer”
  • ค้นหาและเปิดแอป Killer Network Suite ขึ้นมา
  • โปรแกรมนี้มีอยู่หลายเวอร์ชัน มันจะมีชื่อว่า Killer Network Manager หรือไม่ก็
  • Killer Control Center
  • ใต้การตั้งค่า นำเครื่องหมายถูกออกจากตัวเลือก “Enable Advanced Stream Detect” (เปิดใช้งาน Advanced Stream Detect)
  • ปิดแอป Killer Network Suite เปิดไคลเอนต์ League และลองล็อกอิน

เปลี่ยนการตั้งค่า Safari ของคุณ (Mac)

มีวิดีโอขั้นตอนแบบมีภาพประกอบให้คุณทำตาม!

คุณต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่า Safari ไม่ได้บล็อกคุกกี้ คุณสามารถตรวจสอบได้โดยการทำดังนี้:

วิธีเปลี่ยนการตั้งค่าของ Safari

  • เปิด Safari
  • ในแถบด้านบน คลิกที่ "Safari" และเลือก "Preferences..." (การกำหนดค่า...)
  • ด้านบนสุดของหน้าต่าง เลือกแท็บ "Privacy" (ความเป็นส่วนตัว)
  • ด้านใต้ "Cookies and website data" (คุกกี้และข้อมูลเว็บไซต์) ตั้งค่าตัวเลือกเป็น "Always allow" (อนุญาตเสมอ)

อัปเดตระบบปฏิบัติการของคุณ (Mac)

มีวิดีโอขั้นตอนแบบมีภาพประกอบให้คุณทำตาม!

การอัปเดตหลาย ๆ อย่างต่อระบบปฏิบัติการนั้นประกอบด้วยการแก้ไขบั๊กและการเพิ่มส่วนขยายสำหรับซอฟต์แวร์กราฟิก ซึ่งทำให้ตัวเกมทำงานได้ไร้ปัญหามากขึ้น หากคุณมีอาการเกมหยุดทำงานบ่อยครั้ง การอัปเดตซอฟต์แวร์อาจช่วยได้

การอัปเดตระบบปฏิบัติการ (Mac)

  • คลิกไอคอน Apple ที่มุมบนซ้ายของหน้าจอ และคลิก "About This Mac" (เกี่ยวกับ Mac เครื่องนี้) จากนั้นเลือก "Software update..." (อัปเดตซอฟต์แวร์...)
  • App Store จะเปิดขึ้นมาและแสดงการอัปเดตซอฟต์แวร์ใด ๆ ก็ตามที่สามารถทำได้สำหรับ OS X และ App Store การอัปเดต OS X จะอยู่บนสุดของรายการ
  • คลิก "Update All" เพื่อติดตั้งการอัปเดตซอฟต์แวร์ทั้งหมดที่มีให้ใช้งาน หากมีหน้าต่างขึ้นมา ให้ใส่ชื่อผู้ดูแลระบบและรหัสผ่านของคุณ จากนั้นใส่ Apple ID และรหัสผ่าน
  • รีสตาร์ทระบบของคุณหากระบบแจ้งให้รีสตาร์ท
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่

ไม่พบในสิ่งที่คุณกำลังตามหางั้นหรือ ?

ไม่ว่าคุณจะพบกับปัญหาอะไร เราก็พร้อมที่จะช่วยเหลือคุณเสมอ! ส่งคำร้องขอ! ตราบใดที่คำร้องขอของคุณไม่ได้หล่นหายไปในประตูมิติ เราจะทำการติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด

/ ส่งคำร้อง
สนับสนุนโดย Zendesk