แก้ไข League ของฉัน: ขั้นตอนแรกสำหรับการช่วยเหลือทางเทคนิค

คงไม่มีอะไรน่าหงุดหงิดไปกว่าการกลับบ้านหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน แล้วพบว่ามี "ปัญหาทางเทคนิค" ที่ระบุไม่ได้คอยขัดขวางการเล่น League ของคุณอยู่ เราอยากจะพาคุณกลับเข้าสู่เกม (หรือเริ่มต้นเล่นหากคุณเป็นผู้เล่นใหม่!) ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และในขณะที่เอเจนท์ฝ่ายสนับสนุนของ Riot จะพร้อมให้การช่วยเหลือคุณเสมอ ยังมีหลาย ๆ อย่างที่คุณสามารถลองทำด้วยตัวเองก่อนได้

นี่คืออาการบางอย่างที่คุณอาจจะเคยพบ และเครื่องมือที่จะช่วยคุณแก้ไขปัญหาในทุกขั้นตอน

เริ่มจากตรงนี้: Riot Repair Tool

Victorious-Blitzcrank_2.jpg

Riot Repair Tool เป็นนวัตกรรมล่าสุดในการแก้ไขปัญหาด้วยตนเองจากช่างซ่อมฝีมือแสนยอดเยี่ยมของ Riot Games มันเป็นเครื่องมืออเนกประสงค์ (ใช้ได้กับทั้ง VALORANT, Legends of Runeterra และไคลเอนต์ Riot) ที่ทำให้การแพตช์ใหม่ การติดตั้งใหม่ และการรวบรวมข้อมูล Log ที่ทีมสนับสนุนของ Riot ต้องการนั้นทำได้ง่ายขึ้นมากในกรณีที่คุณต้องการส่งคำร้อง ดาวน์โหลดและศึกษาวิธีใช้เครื่องมือที่นี่:

ติดตั้ง Riot Repair Tool

League หยุดทำงานอยู่เรื่อย ๆ หรือไม่?

ArcaneCaitlyn_Final.png

แย่หน่อยที่ปัญหาเกมหยุดทำงานอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ดูวิธีแก้ไขปัญหาที่อาจจะช่วยได้ด้านล่าง

คลิกวิธีแก้ที่สนใจเพื่อเปิดทางลัดไปดูได้เลย:

วิธีแก้ที่ 1: ตรวจสอบความต้องการของระบบ

ความต้องการของระบบ

มีผลครอบคลุมตั้งแต่เดือนเมษายน 2023 เป็นต้นไป

 

ความต้องการขั้นต่ำ

แนะนำ

CPU

Intel: Core i3-530

AMD: A6-3650

ARM: ไม่รองรับ

Intel: Core i5-3300

AMD: Ryzen 3 1200

ARM: ไม่รองรับ

ฟีเจอร์ CPU

SSE3

SSE4

GPU

NVidia: GeForce 9600GT

AMD: HD 6570

Intel: Intel HD 4600 Integrated Graphics

NVidia: GeForce 560

AMD: Radeon HD 6950

Intel: Intel UHD 630 Integrated Graphics

ฟีเจอร์ GPU

ฮาร์ดแวร์ระดับ DX10

ฮาร์ดแวร์ระดับ DX11

VRAM

1 GB

2 GB

พื้นที่ว่างจัดเก็บ

16 GB HDD

16 GB SSD

เวอร์ชันระบบปฏิบัติการ

Win 7, 8, 10

Win 10

โครงสร้างระบบปฏิบัติการ

x64

x64

RAM

2 GB

4 GB

การตั้งค่า GFX ที่แนะนำ

ต่ำ

สูง

ความละเอียดที่แนะนำ

1024x768

1920x1080

วิธีแก้ที่ 2: อัปเดตไดรเวอร์

ไดรเวอร์ที่ล้าสมัยคือปัญหาทั่วไปที่ทำให้ League ขัดข้อง แต่แย่หน่อยที่ปัญหานี้อยู่นอกเหนือขอบเขตของคู่มือนี้ในการเชื่อมต่อคุณกับไดรเวอร์เฉพาะจำนวนมากที่อุปกรณ์ของคุณใช้งานอยู่ คุณจะต้องเข้าไปที่เว็บไซต์ให้ความช่วยเหลือของผู้ผลิตแต่ละรายสำหรับการอัปเดตไดรเวอร์ล่าสุด อย่าลืมตรวจสอบและอัปเดตไดรเวอร์ตามแต่ละชนิดดังนี้:

พื้นฐาน:
  • CPU
  • เมนบอร์ด
  • BIOS
 อุปกรณ์อินพุต:
  • คีย์บอร์ด
  • เมาส์
การแสดงผล:
  • GPU
  • มอนิเตอร์
 อุปกรณ์เครือข่าย:
  • อะแด็ปเตอร์ Wi-Fi
  • การ์ดเครือข่าย
  • โมเด็ม
 เสียง

วิธีแก้ที่ 3: อัปเดตระบบปฏิบัติการ

นี่เป็นหนึ่งในวิธีแก้ไขปัญหาที่ง่ายดายที่สุด!

สำหรับ Windows:

  1. กดปุ่ม Start ของ Windows ที่มุมของจอคุณ
  2. คลิกไอคอนตั้งค่ารูปฟันเฟือง
  3. คลิก Updates & Security
  4. คลิก "Check for Updates"

สำหรับ Mac:

  1. จากเมนู Apple   ที่มุมของจอคุณ เลือก System Preferences
  2. ในหน้าต่าง System Preferences คลิก Software Update (หากใน System Preferences ไม่มี Software Update ให้ใช้ App Store เพื่อทำการอัปเดตแทน)
  3. คลิก Update Now หรือ Upgrade Now:
    1. Update Now จะติดตั้งอัปเดตล่าสุดของเวอร์ชันที่คุณใช้งานอยู่ เช่นการอัปเดต macOS Big Sur 11.5 ไปเป็น macOS Big Sur 11.6
    2. Upgrade Now จะติดตั้งการอัปเดตใหญ่ของระบบปฏิบัติการที่ใช้ชื่อเวอร์ชันใหม่ เช่น macOS Monterey

วิธีแก้ที่ 4: เปิดใช้งานโหมดคุณภาพต่ำ

เราทุกคนน่าจะพอเข้าใจว่าทำไมการปรับลดการตั้งค่าการแสดงผลของเกมถึงส่งผลช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าคุณสามารถกดทำเครื่องหมายเล็ก ๆ ที่ช่องเดียวเพื่อลดการตั้งค่าทั้งหมดเป็น "ต่ำ" ได้โดยอัตโนมัติ การตั้งค่านี้มีชื่อว่าโหมดคุณภาพต่ำ และคุณสามารถเข้าถึงได้จากการตั้งค่าไคลเอนต์ของคุณขณะอยู่นอกเกม

  1. เปิดไคลเอนต์ของ League
  2. คลิกไอคอนตั้งค่ารูปฟันเฟืองที่ด้านขวาบน
  3. ในแถบทั่วไป เลื่อนไปด้านบน
  4. คลิกช่อง "เปิดใช้งานโหมดคุณภาพต่ำ"

LowSpecMode_English_Screenshot.png

หมายเหตุ: โหมดคุณภาพต่ำไม่สามารถเปิดใช้งานได้ขณะที่อยู่ในเกม

ติดอยู่ที่จอดำ หน้าโหลด หรือว่าหน้าล็อบบี้หรือเปล่า?

Jinx_vs_Vi.png

คลิกวิธีแก้ที่สนใจเพื่อเปิดทางลัดไปดูได้เลย:

วิธีแก้ที่ 1:  ปิดแล้วเปิด League "ในฐานะผู้ดูแลระบบ" [Windows]

สำหรับ Windows:

  1. คลิกขวาที่ Shortcut ของเกมแล้วคลิก Properties ที่อยู่ล่างสุด
  2. คลิกแถบ Compatibility แล้วทำเครื่องหมายที่ "Run this program as an Administrator"
  3. คลิก Apply แล้วกด OK

วิธีแก้ที่ 2: อัปเดตระบบปฏิบัติการ

หากระบบของคุณล้าสมัยไปหน่อย ก็อาจทำให้คุณพบเจอกับข้อผิดพลาดที่ไม่คาดคิดได้หลายอย่าง

สำหรับ Windows:

  1. กดปุ่ม Start ของ Windows ที่มุมของจอคุณ
  2. คลิกไอคอนตั้งค่ารูปฟันเฟือง
  3. คลิก Updates & Security
  4. คลิก "Check for Updates"

สำหรับ Mac:

  1. จากเมนู Apple   ที่มุมของจอคุณ เลือก System Preferences
  2. ในหน้าต่าง System Preferences คลิก Software Update (หากใน System Preferences ไม่มี Software Update ให้ใช้ App Store เพื่อทำการอัปเดตแทน)
  3. คลิก Update Now หรือ Upgrade Now:
    1. Update Now จะติดตั้งอัปเดตล่าสุดของเวอร์ชันที่คุณใช้งานอยู่ เช่นการอัปเดต macOS Big Sur 11.5 ไปเป็น macOS Big Sur 11.6
    2. Upgrade Now จะติดตั้งการอัปเดตใหญ่ของระบบปฏิบัติการที่ใช้ชื่อเวอร์ชันใหม่ เช่น macOS Monterey

วิธีแก้ที่ 3: ดำเนินการ "คลีนบูต" ให้ระบบของคุณ[Windows]

บางครั้งแอปพลิเคชันอื่น ๆ โดยเฉพาะซอฟต์แวร์ที่ใช้การโอเวอร์เลย์ (เช่น Discord, OBS และ Steam) สามารถทำให้ League of Legends ขัดข้องได้ คุณสามารถปิดหรือหยุดการใช้โปรแกรมเหล่านั้น และดูว่าวิธีนี้สามารถแก้ไขปัญหาการค้างได้ไหม โดยการลองเล่นเกมสร้างเองใน League of Legends

หรือหากคุณต้องการที่จะทำให้แน่ใจว่าไม่มีแอปพลิเคชันอื่นที่จะส่งผลกระทบต่อ League of Legends คุณควรลองทำการคลีนบูตสำหรับ Windows

สำหรับคำแนะนำเวอร์ชันล่าสุดและแม่นยำที่สุด โปรดไปที่บทความช่วยเหลือของ Microsoft ที่นี่:

วิธีดำเนินการคลีนบูต

(เว็บไซต์ช่วยเหลือของ Microsoft)

 

วิธีปิดการใช้งานกระบวนการที่ไม่จำเป็นทั้งหมด:

    1. กด  + R
    2. พิมพ์ “msconfig” ในช่องข้อความ (แบบไม่มีอัญประกาศ)
    3. คลิกแถบ Services
    4. !! ทำเครื่องหมายที่ "Hide all Microsoft services" เพื่อป้องกันไม่ให้คุณปิดใช้งานกระบวนการที่สำคัญต่อการทำงานของระบบโดยไม่ได้ตั้งใจ !! (หากคุณเล่น VALORANT ด้วย: หา "vgc" แล้วทำเครื่องหมายที่บริการนั้นอีกครั้ง นี่เป็นเงื่อนไขจำเป็นเพื่อให้เล่น VALORANT ได้!)
    5. คลิกปุ่ม Disable All
    6. คลิกแถบ Startup
    7. คลิกปุ่ม Disable All
    8. คลิกปุ่ม Apply
    9. คลิกปุ่ม OK
    10. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ

วิธีแก้ที่ 4: ติดตั้ง League of Legends ใหม่

อย่างที่พูดกันในอินเทอร์เน็ต บางครั้งการแก้ปัญหาก็แค่ต้อง "ปิดแล้วเปิดใหม่เท่านั้น!" การลบและติดตั้ง League ใหม่ทั้งหมดสามารถแก้ปัญหามากมายแทนที่การต้องตั้งค่าอะไรต่าง ๆ แสนซับซ้อน (หมายเหตุ: Riot Repair Tool สามารถแพตช์และติดตั้ง League ใหม่ได้โดยอัตโนมัติ!)

สำหรับ Windows:

  1. กดปุ่ม Start ของ Windows ที่มุมของจอคุณ
  2. คลิกปุ่มตั้งค่ารูปฟันเฟือง
  3. คลิกเข้าไปที่ถาดแอป (Apps & Features)
  4. ถอนการติดตั้ง League of Legends (แต่อย่าเพิ่งหยุดที่ขั้นตอนนี้นะ!)
  5. ไปยังโฟลเดอร์เกม Riot ของคุณแล้วลบทุกอย่างทิ้งให้หมด (ตามค่าเริ่มต้นจะอยู่ที่ "C:\Riot Games") ส่งมันไปที่ Recycle Bin แล้วลบทุกอย่างให้เกลี้ยง!
  6. ถัดไป พิมพ์ “%localappdata%” (แบบไม่มีอัญประกาศ) ลงในแถบ Address ของ Windows Explorer
  7. หากคุณมีเพียง League of Legends และไม่มีเกมอื่นของ Riot ติดตั้งอยู่ คุณสามารถลบโฟลเดอร์ Riot Games ทั้งหมดได้ หากคุณมีเกมอื่น ๆ ของ Riot ติดตั้งอยู่ด้วย คลิกเข้าไปที่โฟลเดอร์ Riot Games แล้วลบโฟลเดอร์ League of Legends ทั้งหมด
  8. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ
  9. ดาวน์โหลดเกมใหม่จากที่นี่ (ภาษาของเว็บไซต์สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยใช้เมนูตัวเลือกทางด้านขวาบน)
  10. เมื่อดาวน์โหลดเสร็จ คลิกขวาแล้วเลือก "Run as Administrator" (บน Windows) แล้วทำตามขั้นตอนเพื่อติดตั้ง

สำหรับ Mac:

  1. เปิด Finder
  2. หาโฟลเดอร์แอปพลิเคชันจากเมนูด้านซ้าย หรือพิมพ์ “/Applications/” แบบไม่มีอัญประกาศลงในแถบ Address ด้านบน
  3. ลาก League of Legends จากโฟลเดอร์แอปพลิเคชันไปที่ถังขยะ
  4. ถัดไป กด CMD+Shift+C แล้วไปที่ “Macintosh HD/Users/Shared/Riot Games” แล้วลากโฟลเดอร์นั้นใส่ถังขยะเช่นกัน
  5. จาก Dock คลิกขวาที่ถังขยะแล้วกด "Empty"
  6. ดาวน์โหลด League ใหม่อีกครั้งที่นี่

พบปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือเปล่า?

ArcaneJayce_Final.png

คลิกวิธีแก้ที่สนใจเพื่อเปิดทางลัดไปดูได้เลย:

เรามีคู่มือสองฉบับที่แยกจากกันซึ่งครอบคลุมปัญหาการเชื่อมต่อขั้นพื้นฐานและขั้นสูงทุกประเภท รวมถึงการแก้ไขที่เป็นไปได้ต่าง ๆ แต่ต่อไปนี้คือคำแนะนำทั่วไปบางประการ:

วิธีแก้ที่ 1: สลับไปเป็นการเชื่อมต่อผ่านสายแลน

การเชื่อมต่อแบบไร้สายมักจะทำให้เกิดความยากในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากการแทรกแซงที่อาจเกิดขึ้นได้จากสิ่งแวดล้อมและสัญญาณวิทยุอื่น นี่มักทำให้เกิดอาการหน่วงฉับพลันและ/หรือการสูญเสียแพ็กเก็ตข้อมูลได้ เพื่อกำจัดปัจจัยเหล่านี้ระหว่างการหาวิธีแก้ไขปัญหา หากทำได้ เราขอแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้การเชื่อมต่อผ่านสายแลน (อีเธอร์เน็ต)

วิธีแก้ที่ 2: อย่าใช้การเชื่อมต่อจากพร็อกซีหรือ VPN

โปรดตรวจสอบให้มั่นใจว่าคุณไม่ได้ใช้งาน VPN หรือพร็อกซีอยู่เมื่อเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ League of Legends เนื่องจากมันจะก่อให้เกิดปัญหาการเชื่อมต่อหลายอย่างที่ไม่สามารถแก้คืนได้!

ควรใช้ VPN เพื่อทดสอบเส้นทางของการเชื่อมต่อของคุณในกรณีเฉพาะจริง ๆ และต้องมีการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคเท่านั้น

วิธีแก้ที่ 3: อัปเดตไดรเวอร์ของเครือข่าย (Windows และ Mac)

วิธีแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อที่มักถูกมองข้ามคือไดรเวอร์เครือข่ายที่ล้าสมัย นี่คือวิธีแก้ไขล่ะ!

สำหรับ Windows:

  1. กดปุ่ม Start ของ Windows ที่มุมของจอคุณ
  2. พิมพ์ "device manager" แล้วกด Enter
  3. ขยายหัวข้อ "Network adapters"
  4. คลิกขวาที่อะแด็ปเตอร์เครือข่ายที่คุณใช้งานอยู่ แล้วคลิก "Update driver"
  5. หากคุณไม่มั่นใจว่ากำลังใช้งานอะแด็ปเตอร์ตัวไหนอยู่ ให้ลองไล่อัปเดตรายชื่อที่ปรากฏทีละอัน

สำหรับ Mac:

  1. คลิกไอคอน Apple   ด้านซ้ายบน แล้วเลือก "System Updates"
  2. ตรวจสอบการอัปเดตและใช้งานการอัปเดตที่จำเป็นทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการอัปเดตปรากฏขึ้นสำหรับอะแด็ปเตอร์ไร้สายหรืออีเธอร์เน็ต

ข้อมูล

สำหรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมในปัญหาการเชื่อมต่อ ไปที่คำแนะนำการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อขั้นพื้นฐานและขั้นสูง

ไปที่คำแนะนำการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อขั้นพื้นฐาน

ไปที่คำแนะนำการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อขั้นสูง

คุณมีปัญหาในการติดตั้งหรือติดตั้งใหม่หรือไม่?

ArcaneVi_Final.png

คลิกวิธีแก้ที่สนใจเพื่อเปิดทางลัดไปดูได้เลย:

วิธีแก้ที่ 1: อัปเดตระบบปฏิบัติการ

หลังจากที่คุณอ่านบทความนี้มาสักพัก ตอนนี้คุณก็คงพอสังเกตได้ว่าการอัปเดตระบบปฏิบัติการของคุณเป็นวิธีแก้สารพัดปัญหาโดยทั่วไปที่ได้ผลดีเสมอ ดังนั้นเราจะทวนกันอีกที เผื่อผู้เล่นด้านหลังด้วยนะ! 

สำหรับ Windows:

  1. กดปุ่ม Start ของ Windows ที่มุมของจอคุณ
  2. คลิกไอคอนตั้งค่ารูปฟันเฟือง
  3. คลิก Updates & Security
  4. คลิก "Check for Updates"

สำหรับ Mac:

  1. จากเมนู Apple  ที่มุมของจอคุณ เลือก System Preferences
  2. ในหน้าต่าง System Preferences คลิก Software Update (หากใน System Preferences ไม่มี Software Update ให้ใช้ App Store เพื่อทำการอัปเดตแทน)
  3. คลิก Update Now หรือ Upgrade Now:
    1. Update Now จะติดตั้งอัปเดตล่าสุดของเวอร์ชันที่คุณใช้งานอยู่ เช่นการอัปเดต macOS Big Sur 11.5 ไปเป็น macOS Big Sur 11.6
    2. Upgrade Now จะติดตั้งการอัปเดตใหญ่ของระบบปฏิบัติการที่ใช้ชื่อเวอร์ชันใหม่ เช่น macOS Monterey

วิธีแก้ที่ 2: เรียกใช้การติดตั้ง “ในฐานะผู้ดูแลระบบ” [Windows]

สำหรับ Windows:

  1. เมื่อดาวน์โหลดไฟล์เสร็จแล้ว ให้คลิกขวาที่ตัวติดตั้ง
  2. คลิกแถบ Compatibility แล้วทำเครื่องหมายที่ "Run this program as an Administrator"
  3. คลิก Apply แล้วกด OK

วิธีแก้ที่ 3: ปิดใช้งาน Firewall ชั่วคราว [Windows]

หากคุณติดตั้ง Firewall ที่ไม่ได้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ ลองปิดใช้งานก่อนทำการติดตั้งหรือเริ่มการแพตช์ Windows มาพร้อมกับ Firewall ของตัวเอง ซึ่งคุณสามารถปิดใช้งานด้วยขั้นตอนดังนี้:

  1. กดปุ่ม Start ของ Windows ที่มุมของจอคุณ
  2. คลิกไอคอนตั้งค่ารูปฟันเฟือง
  3. คลิก Updates & Security
  4. จากเมนูด้านซ้าย คลิก Windows Security
  5. จากรายการด้านล่าง คลิก “Firewall & Network Protection”
  6. คลิก Turn Windows Firewall on or off (อาจมีหน้าต่างขึ้นมาให้ใส่รหัสผู้ดูแลระบบที่ขั้นตอนนี้)
  7. ข้างใต้แต่ละตำแหน่งเครือข่าย ให้คลิกปุ่มเปิดปิดเพื่อปิดใช้งานแต่ละ Firewall
  8. อย่าลืมกลับมาเปิดใช้งาน Firewall ทั้งหมดอีกครั้งหลังจากเสร็จธุระล่ะ!

ยังมีปัญหาอยู่งั้นหรือ?

หากทั้งหมดด้านบนไม่สามารถแก้ได้ โปรดส่งคำร้องมาที่ฝ่ายช่วยเหลือผู้เล่น เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาและทำให้คุณกลับเข้าไปโชว์พลังใน Rift ได้!

ส่งคำร้อง

ArcaneJinx.jpg

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่

ไม่พบในสิ่งที่คุณกำลังตามหางั้นหรือ ?

ไม่ว่าคุณจะพบกับปัญหาอะไร เราก็พร้อมที่จะช่วยเหลือคุณเสมอ! ส่งคำร้องขอ! ตราบใดที่คำร้องขอของคุณไม่ได้หล่นหายไปในประตูมิติ เราจะทำการติดต่อกลับหาคุณโดยเร็วที่สุด

/ ส่งคำร้อง
สนับสนุนโดย Zendesk